หน่วยการเรียนรู้ที่ 1

Unit 1 Volcanoes: 1A Mountains of Fire          
                                    
สาระการเรียนรู้
3.1 ความรู้/ความสามารถ  
คำศัพท์ (Vocabulary)
- Target Vocabulary Unit 1A (ดูคำศัพท์ท้ายเล่มคู่มือครู)
- หลักการออกเสียงระดับคำศัพท์/วลี สามารถออกเสียง และบอกความหมายของคำศัพท์/วลีจากบทอ่านได้                   
โครงสร้างทางไวยากรณ์ (Grammar)
- ส่วนต่างๆ ของบทอ่าน (Parts of reading passage)
หน้าที่ทางภาษา (Function of the Language)
- Writing a sentence to summarize a reading passage
กลวิธีการอ่าน (Reading Strategies) และความเข้าใจ (Reading Comprehension Strategies)
- Scanning
- Reading to identify gist, detail, reference, and purpose 
- Sequencing
วัฒนธรรม (Culture)
              - การดำเนินชีวิตของบุคคลที่อาศัยอยู่บริเวณภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น (active volcano) 

3.2 ทักษะกระบวนการ 
- กระบวนการกลุ่ม             
- กระบวนการคิด           
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 
- ซื่อสัตย์สุจริต (Honesty and integrity)        
- มีวินัย (Self-discipline)
- ใฝ่เรียนรู้ (Avidity for learning)                      
- มุ่งมั่นในการทำงาน (Dedication and commitment to work)
3.4 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 
- ความสามารถในการสื่อสาร (Communication Capacity)
- ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity)
- ความสามารถในการแก้ปัญหา (Problem-Solving Capacity) 
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (Capacity for Applying Life Skills)
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Capacity for Technological Application)

  4.   ภาระงาน/ผลงาน/ชิ้นงาน

4.1 บอกคำศัพท์เกี่ยวกับภูเขาไฟได้ 
4.2 เลือกคำศัพท์กำกับภาพได้ถูกต้องตามบริบท (context)
4.3 จับคู่คำศัพท์กับคำอธิบายความหมายได้ถูกต้อง
4.4 อ่านบทความสั้นๆ จากสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับผู้ประสบเหตุภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศอินโดนิเซียในปี ค.ศ. 2010 แล้วสามารถระบุใจความรวม (gist) รายละเอียด (detail) คำที่ใช้แทนคำอื่น (reference) และจุดประสงค์ของผู้เขียน (purpose) โดยเลือกวงกลมคำตอบที่ถูกต้องได้ 
4.5 อ่านบทความสั้นๆ จากสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับผู้ประสบเหตุภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศอินโดนิเซียในปี ค.ศ. 2010 แล้วสามารถลำดับเหตุการณ์ (sequencing) ได้ถูกต้อง 
4.6 เลือกคำศัพท์ที่เรียนในบทอ่านเติมลงในประโยคได้ถูกต้องตามบริบท (context)
4.7 เลือกคำศัพท์กำกับส่วนต่างๆ ของบทอ่าน (reading passage) ได้ถูกต้อง และเลือกวงกลมคำตอบที่ถูกต้องตามบริบท (context) ของประโยคได้ 
4.8 เขียนประโยคสรุปเรื่องที่อ่านได้

  5.   สื่อและแหล่งเรียนรู้

5.1 สื่อการเรียนรู้
- หนังสือเรียน Reading Adventures with Writing 1 Unit 1A
- ซีดีบันทึกเสียง (Audio CD) 
- พจนานุกรมอังกฤษ-อังกฤษ   
- นักเรียน
5.2 แหล่งเรียนรู้
- อินเทอร์เน็ต (Internet)

  6.   คำถามสำคัญ

Reading 
6.1 What is the reading mainly about? 
6.2 When did the scientists first tell people to leave Mount Merapi? Why?
6.3 On line 8 of the reading passage, “However, they didn’t want to leave.” What does the word ‘they’ mean?
6.4 What is the purpose of the third paragraph?
6.5 How do you number the events in order from 1 to 5?
a. _____ The people near Mount Merapi left the mountain.
b. _____ The people went back home.
c. _____ Ash went into the people’s rooms.
d. _____ Mount Merapi erupted three times.
e. _____ Scientists told people to leave the mountain.
        Writing 
6.6 How do you summarize the story in one sentence?  
           
  7.   การวัดและประเมินผล

7.1 การวัดและประเมินผลระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
7.2 การวัดและประเมินผลเมื่อสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้


A Labeling. Read the paragraph. Then use the words in blue to label the picture. 
- ก่อนที่นักเรียนจะทำกิจกรรมข้อ A ครูกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนดูภาพประกอบในหนังสือเรียน   หน้า 11-12 เพื่อเดาความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนไม่คุ้นเคย โดยครูถามคำถาม แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ ดังนี้
- On page 11-12, what do volcanoes have in the top? (A round hole)
- What is it called? (It is called a crater.) 
- What do you see in the top of the volcanoes on page 11-12? (Page 11 lava or something hot and page 12 smoke and ash)  
- On what page, a volcano is erupting? (Page 11)
- จากนั้นครูออกเสียง crater (CRAY-ter) แล้วให้นักเรียนทั้งชั้นพูดออกเสียงตาม
- ให้นักเรียนทุกคนอ่านย่อหน้า (paragraph) ในกิจกรรมข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า 12 แล้วเขียนคำศัพท์ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงินกำกับรูปภาพให้ถูกต้อง ภายในเวลา 3 นาที 
T: Read the paragraph. Then use the words in blue to label the picture. Please get it done in three minutes.
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนตรวจสอบคำตอบ 
- ครูสุ่มเรียกนักเรียน 1 คนเฉลยคำตอบหน้าชั้นเรียน (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่มคู่มือครู) 
- จากนั้นครูถามคำถาม CCQs (Concept Checking Questions) เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนทราบความหมายของคำศัพท์ volcano, smoke, lava, erupt, และ ash ซึ่งเป็นคำศัพท์สำคัญตาม      ชื่อเรื่องที่จะปรากฏในบทอ่านหรือไม่ ดังนี้ 
volcanoes 
- What do volcanoes look like? (Mountains)
- Do mountains have a hole in the top? (No.) 
- Do volcanoes have a hole in the top? (Yes.)
- Are there active volcanoes in Thailand? (No.) 
smoke 
- Can you see smoke? (Yes.)
- When do you see it? (When a cigarette is lighted, before fire blasts, when there is a large fire, when people are burning wood in stove)                 
lava 
- Can you see lava? (Yes.)
- Is it hot or cold? (Hot) 
- What does it look like? (Fire)
- Does it come out of a volcano or a mountain? (A volcano)
erupt 
- When volcanoes erupt, do they make noise? (Yes.) 
- What do you see when volcanoes erupt? (Smoke and lava)
ash 
- What color is ash? (Soft gray)
- When can you see it? (After something has been burned/burnt)
B Definitions. Match the words (1 to 8) with their meanings (a to h). 
- ให้นักเรียนใช้ความรู้ด้านภาษาศาสตร์ (linguistic knowledge/bottom up process) และทักษะ    การเดาความหมายของคำศัพท์โดยใช้ร่องรอยจากบริบท (guessing meanings from context clues) ทำกิจกรรมข้อ B ในหนังสือเรียน หน้า 12 ภายในเวลา 10 นาที ดังนี้                
1. ให้นักเรียนทุกคนทำกิจกรรมข้อ B (โดยลอกโจทย์และตัวเลือกคำตอบลงในสมุด) จับคู่คำศัพท์ข้อ 1-8 และความหมายข้อ a-h ให้สัมพันธ์กัน ภายในเวลา 4 นาที โดยไม่ต้องอ่านบทอ่านเรื่อง Mount Merapi Erupts ในหนังสือเรียน หน้า 13 
T: Class, please copy exercise B into your notebooks. Match the words (1 to 8) with their meanings (a to h). Please do not look at or read the passage on page 13. You have four minutes to get it done.
2. เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ให้นักเรียนดูคำศัพท์ที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงินและคำหรือข้อความที่อยู่รอบๆ คำศัพท์เหล่านั้นในบทอ่าน หน้า 13 เพื่อตรวจสอบคำตอบของตนเองภายในเวลา 6 นาที นักเรียนสามารถแก้ไขคำตอบได้เมื่อพบว่าตนเองเลือกคำตอบผิด 
T: You have six minutes to look at the passage on page 13. Focus on the blue words and words or phrases around them. Then go over your answers and make changes if it’s necessary.  
3. จากนั้นให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเปรียบเทียบคำตอบ แล้วให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันเฉลยคำตอบ และตรวจคำตอบของตนเอง (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่มคู่มือครู) 
T: Find a partner and compare the answers. Class, please give me the correct answers. 
- ให้นักเรียนบันทึกผลคะแนนของตนเอง โดยแยกว่ามีข้อใดที่ถูกต้องหลังจากใช้ร่องรอยจากบริบท เพื่อให้นักเรียนเห็นการพัฒนาทักษะการเดาความหมายของคำศัพท์โดยใช้ร่องรอยจากบริบท (guessing meaning from context clues) ของตนเองตลอดปีการศึกษา
- ให้นักเรียนที่สามารถออกเสียงคำศัพท์ได้ถูกต้องอาสาอ่านให้เพื่อนๆ ฟัง แล้วให้นักเรียนทั้งชั้น   ออกเสียงตาม ถ้านักเรียนออกเสียงไม่ถูกต้อง ครูออกเสียงที่ถูกต้องอีกครั้ง
T: Would anyone like to volunteer to read these words? And the rest repeat after that person. 


Reading: Mount Merapi Erupts  
Strategy: Scanning. When did Mount Merapi erupt? How many times did it erupt that day? 
- ครูใช้คำถาม CCQs (Concept Checking Questions) ทบทวนหรือสอนกลวิธีการอ่านอย่างเร็วเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ (scanning – reading quickly in search of specific information, such as names and dates) ดังนี้ 
- Do you read the passage thoroughly? (No.)
- Do you read quickly or slowly? (Quickly)  
- Do you know what you search for? (Yes.) 
- ให้นักเรียนทบทวนกลวิธีการอ่านอย่างเร็วเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ (scanning) โดยครูเขียนตัวอย่างคำถามบนกระดาน หรือให้นักเรียนดูชื่อบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 13 แล้วเขียนคำถามเกี่ยวกับชื่อ (บุคคล/สถานที่) เวลา วันที่ เดือน ปี จำนวน/ตัวเลข คนละ 1-2 คำถามลงในสมุดของตนเอง
ตัวอย่างคำถามของครู
- When did Mount Merapi erupt? 
- How many times did it erupt that day?
- ก่อนลงมือปฏิบัติกิจกรรม Reading Strategy: Scanning. ในหนังสือเรียน หน้า 13 ครูถามคำถามต่อไปนี้เพื่อตรวจสอบว่านักเรียนทุกคนเข้าใจคำถามหรือไม่ โดยให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันตอบ ดังนี้
- What do you search for the answer for when? (Date/time)
- What does ‘times’ mean? (How often something happens) 
- What do you search for ‘time’? (A number that tells how often something happens)
- ให้นักเรียนทุกคนลงมือปฏิบัติกิจกรรม Reading Strategy: Scanning. ให้เสร็จภายในเวลา 2 นาที เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ให้นักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ พร้อมทั้งระบุเลขบรรทัดใน  บทอ่านที่สนับสนุนคำตอบ (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่มคู่มือครู)
T: Please take two minutes to scan the passage and find the answers to the questions. Class, please give me the answers and identify the line numbers to support your answers.
Reading Comprehension
A Circle the correct answer.
- ให้นักเรียนทุกคนลอกคำถามกิจกรรม Reading Comprehension ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า 14 ลงในสมุดของตนเอง โดยไม่ต้องลอกตัวเลือกคำตอบ (choice) แล้วพูดคุยกับเพื่อนเพื่อทำ    ความเข้าใจคำถามแต่ละคำถาม   
T: Class, please copy the questions in Reading Comprehension A on page 14 into your notebooks. Then discuss with your friends to make sure you understand the questions. 

9.2 ขั้นระหว่างการอ่าน (While-reading)
- ให้นักเรียนอ่านบทอ่านเรื่อง Mount Merapi Erupts ในหนังสือเรียน หน้า 13 แล้วตอบคำถามที่นักเรียนลอกไว้ในสมุดของตนเอง 
T: Read the passage and write short answers next to the questions.
คาบเรียนชั่วโมงที่ 2
9.3 ขั้นหลังการอ่าน (Post-reading) 
- ให้นักเรียนทุกคนศึกษาความหมายของคำศัพท์ gist, detail, reference และ purpose ซึ่งปรากฏอยู่หน้าคำถามแต่ละคำถามในกิจกรรม Reading Comprehension ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า 14 ด้วยตนเอง ดังนี้
1. ให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ช่วยกันวิเคราะห์คำถามแต่ละคำถาม เพื่อหาคำสำคัญ (key words) ที่ช่วยให้เดาความหมายของคำศัพท์ที่อยู่หน้าคำถาม
T: Work in groups of four. Find key words in the questions that help you guess the meanings of the words before them.
2. ให้นักเรียน 2 กลุ่มรวมกันเป็นกลุ่มใหม่เพื่อเปรียบเทียบคำตอบ และสรุปคำสำคัญ (key words) เป็นคำตอบของกลุ่ม 
T: Find another group. Compare your answers and decide on the key words of the group.
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนกลุ่มออกมาเขียนคำตอบบนกระดาน แล้วให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันเลือกคำตอบที่คิดว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ถ้าคำตอบที่นักเรียนทั้งชั้นเลือกไม่ถูกต้อง ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง
คำตอบที่คาดหมายและคำอธิบาย
1. gist (n) general meaning or sense of a text (ใจความรวม) key words – reading mainly about
2. detail (n) fact or piece of information considered together (รายละเอียด) key words – when, first tell
3. reference (n) the relationship between a word, word or idea mentioned elsewhere in the reading passage (คำที่ใช้แทนคำอื่น) key words – In line 8 the word, means 
4. purpose (n) the thing that an event, process or activity is supposed to achieve (จุดประสงค์) key words – the purpose of, is to tell
- ให้นักเรียนทุกคนอ่านบทอ่านเรื่อง Mount Merapi Erupts ในหนังสือเรียน หน้า 13 อีกครั้ง เพื่อทำกิจกรรม Reading Comprehension ข้อ A โดยเลือกวงกลมคำตอบให้ถูกต้องตามบทอ่าน ภายในเวลา 2 นาที
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4 คนเฉลยคำตอบ คนละ 1 ข้อ พร้อมทั้งระบุเลขบรรทัดในบทอ่านที่สนับสนุนคำตอบ ให้นักเรียนทั้งชั้นฟังแล้วช่วยกันตัดสินว่าคำตอบของเพื่อนถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ ครูอธิบายเพิ่มเติมถ้านักเรียนตอบไม่ถูกต้อง
T: Student’s name, please give me the answer for number 1 (2, 3, 4) and the line numbers from the reading passage to evidence your answer.
คำตอบและคำอธิบาย
1. ข้อ b ถูกต้อง เพราะคำถาม gist ต้องการคำตอบที่ครอบคลุมข้อมูลทั้งหมดของบทอ่าน (entire/whole passage) ไม่ใช่ข้อมูลจากย่อหน้า (paragraph) ใดย่อหน้าหนึ่งเท่านั้น ซึ่งข้อ b สามารถครอบคลุมข้อมูลทั้งหมดของบทอ่านที่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อภูเขาไฟ Mount Merapi ระเบิด ครูอาจให้นักเรียนดูชื่อบทอ่าน (title): Mount Merapi Erupts และหัวข้อย่อย (subheadings): Monday Afternoon, After the Eruption อีกครั้ง 
ข้อ a ไม่ถูกต้อง เพราะกล่าวถึงเฉพาะบุคคลที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟ Mount Merapi เท่านั้น ถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านี้จะถูกกล่าวถึงทุกย่อหน้า แต่ชื่อเรื่อง (title) คือ ภูเขาไฟ Mount Merapi ระเบิด (Mount Merapi Erupts)
ข้อ c ไม่ถูกต้อง เพราะบทอ่านเขียนถึงเหตุการณ์ที่ภูเขาไฟ Mount Merapi ในประเทศอินโดนีเซียระเบิดเพียงลูกเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ภูเขาไฟทั้งหมดในประเทศอินโดนีเซีย 
2. ข้อ a ถูกต้อง (บรรทัดที่ 7-8) ให้นักเรียนอ่านบรรทัดที่ 7 ในหนังสือเรียน หน้า 13 แล้วสังเกต Before this ซึ่ง this ในบทอ่านหมายถึง October 25, 2010 และถูกกล่าวถึงก่อนหน้านี้ในบรรทัดที่ 4 ว่าเป็นวันที่ภูเขาไฟ Mount Merapi ระเบิด ในคำถามข้อนี้นักเรียนอาจใช้ความรู้ทั่วไป (general knowledge/knowledge of the world) เกี่ยวกับการเตือนภัยธรรมชาติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีหน้าที่เตือนบุคคลที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่จะเกิดภัยพิบัติล่วงหน้าเป็นตัวช่วยในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้แม่นยำขี้น
3. ข้อ b ถูกต้อง (บรรทัดที่ 8) they ในบรรทัดที่ 8 เป็นคำสรรพนาม (pronoun) พหูพจน์ใช้แทนคำนาม (noun) scientists, people และ homes ที่ถูกกล่าวถึงในประโยคก่อนหน้านี้ ดังนั้นนักเรียนต้องพิจารณาว่า they เป็นประธานของคำกริยาใด (คำตอบคือ leave) scientists เป็นประธานของคำกริยาใด (คำตอบคือ told) และ people เป็นประธานของคำกริยาใด (คำตอบคือ leave) homes เป็นประธานของประโยคหรือไม่ (คำตอบคือ homes เป็น กรรมของกริยา leave) นอกจากนี้นักเรียนสามารถใช้ความรู้ทั่วไป (general knowledge/knowledge of the world) เกี่ยวกับความรู้สึกของผู้อาศัยอยู่ในบริเวณที่จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติว่ามักไม่อยากอพยพทิ้งบ้านของตนเป็นตัวช่วยในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้แม่นยำขี้น
4. ข้อ a ถูกต้อง (บรรทัดที่ 18-25) เพราะคำถามระบุจุดประสงค์ (purpose) ของย่อหน้าที่ 3 ในหนังสือเรียน หน้า 13 ซึ่งย่อหน้านี้มีหัวข้อย่อย (subheading) After the Eruption (ภายหลังการระเบิด) 
ข้อ b ไม่ถูกต้อง เพราะ scientists ปรากฏในย่อหน้าที่ 2 เท่านั้น 
ข้อ c ไม่ถูกต้อง เพราะข้อความในตัวเลือกไม่สอดคล้องกับหัวข้อย่อย (subheading) After the Eruption ของย่อหน้าที่ 3
- ให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบของกิจกรรมนี้กับคำตอบของกิจกรรมก่อนหน้านี้ (ตอบคำถามโดยไม่มีตัวเลือกคำตอบ) แล้วบันทึกจำนวนข้อที่ถูกต้องลงในสมุด เพื่อให้นักเรียนเห็นการพัฒนาทักษะการอ่าน (reading comprehension) ของตนเองตลอดปีการศึกษา
B Strategy: Sequencing. Number the events in order from 1 to 5. 
- ครูอ่านคำสั่งกิจกรรม Reading Comprehension ข้อ B ในหนังสือเรียน หน้า 14 ให้นักเรียน
ทั้งชั้นฟัง แล้วบอกให้นักเรียนเรียงลำดับเหตุการณ์ให้สัมพันธ์กับบทอ่าน   
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ครูให้นักเรียนปฏิบัติดังนี้
1. ให้นักเรียนทำงานกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เปรียบเทียบคำตอบของตนกับเพื่อนในกลุ่ม และสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม 
2. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4 กลุ่มส่งตัวแทนกลุ่ม กลุ่มละ 1 คน ออกมาเขียนคำตอบของกลุ่มบนกระดาน โดยเขียนเรียงลำดับประโยคในรูปแบบของย่อหน้า (a form of a paragraph) และระบุเลขบรรทัดในบทอ่านที่แสดงประโยคนั้นๆ เพื่อสนับสนุนคำตอบ
3. นักเรียนกลุ่มที่ไม่ได้ส่งตัวแทนกลุ่มช่วยกันตรวจคำตอบของเพื่อนกลุ่มที่เขียนบนกระดานว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องให้แก้ไข ครูอธิบายเพิ่มเติม (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่มคู่มือครู)  
- ให้นักเรียนบันทึกจำนวนข้อที่นักเรียนทำได้ถูกต้อง เพื่อให้นักเรียนเห็นการพัฒนาทักษะการอ่าน (reading comprehension: sequencing) ของตนเองตลอดปีการศึกษา
คำตอบและคำอธิบาย
- ประโยคที่ 1 ข้อ e (บรรทัดที่ 8-10)
- ประโยคที่ 2 ข้อ a (บรรทัดที่ 10-11)
- ประโยคที่ 3 ข้อ d (บรรทัดที่ 13-14)
- ประโยคที่ 4 ข้อ c (บรรทัดที่ 15-16, 20-21) ash ปรากฏในบรรทัดที่ 15 ย่อหน้าที่ 2 เป็นช่วงที่ภูเขาไฟกำลังระเบิด
- ประโยคที่ 5 ข้อ b (บรรทัดที่ 19-20) ปรากฏในบรรทัดที่ 19-20 ย่อหน้าที่ 3 เป็นช่วงที่ภูเขาไฟหยุดระเบิดแล้ว
- ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า นักเรียนสามารถใช้ความรู้ทั่วไป (general knowledge/knowledge of the world) เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องการเผาไหม้ของวัสดุตามธรรมชาติ (วิทยาศาสตร์กายภาพเบื้องต้น) เป็นตัวช่วยในการเรียงลำดับประโยคที่ 4 และ 5 ได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น 
- ให้นักเรียนอ่านบทอ่านเรื่อง Mount Merapi Erupts ในหนังสือเรียน หน้า 13 ในใจพร้อมฟังซีดีบันทึกเสียงของบทอ่านนี้ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษ (pronunciation: stress and intonation, pace) ด้วยตนเอง โดยการทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่ได้ยินที่คำหรือประโยคในบทอ่าน  
Language Practice 
A Vocabulary: Completion. Complete the sentences using a word from the box. 
- ครูอ่านคำสั่งกิจกรรม Language Practice ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า 15 และแจ้งนักเรียนว่ากิจกรรมนี้เป็นการทดสอบย่อย พร้อมทั้งแนะนำให้นักเรียนดูภาพประกอบระหว่างทำกิจกรรม
ข้อ 3 และ 8 
- ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรม Language Practice ข้อ A (โดยลอกโจทย์และตัวเลือกคำตอบลงในสมุด) เลือกคำศัพท์ที่กำหนดให้เขียนเติมลงในประโยคให้สมบูรณ์ ภายในเวลา 10 นาที 
T: Class, please copy exercise A into your notebooks and complete the sentences using a word from the box. You have ten minutes to get it done.
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันเฉลยคำตอบ (ดูเฉลยคำตอบ  ท้ายเล่มคู่มือครู) ให้นักเรียนตรวจงานของตนเองและบันทึกจำนวนข้อที่ทำได้ถูกต้องลงในสมุด 
T: Class, please shout out the answers, correct your answers and record the score: one item one mark.
Usage
- ให้นักเรียนทบทวนความหมายและหน้าที่ของคำ (part of speech) ของ a lot of และ lot of โดยศึกษาคำอธิบายและประโยคตัวอย่างในกรอบ Usage ในหนังสือเรียน หน้า 15 
- ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยถามคำถาม CCQs (Concept Checking Questions) แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ ดังนี้
- Are these words or phrases? (Phrases)
- Do they have the same meanings? (Yes.)
- Does ‘a lot of’ mean very much or very many? (Very many)
- Do you have a lot of or a lot friends? (A lot of)
- Do you have a lot of or a lot milk? (A lot of)
- Does ‘a lot’ mean very much or very many? (Very much)
- Does she love sweets a lot or a lot of? (A lot)
- Is there a noun after ‘a lot’? (No.) 
- Is there a noun after ‘a lot of’? (Yes.) 
- ให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันสรุปความหมายและหน้าที่ของคำ (part of speech) ของ a lot of และ    a lot โดยครูช่วยเสริมและสรุปอีกครั้ง 
สรุป
วลีทั้ง 2 คำมีความหมายเหมือนกัน คือ ปริมาณมาก แต่หน้าที่ของคำต่างกัน – a lot of ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (adjective) บอกปริมาณมากของคำนามที่นับได้และคำนามที่นับไม่ได้ ส่วน 
a lot ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ (adverb) บอกปริมาณมากของคำกริยา a lot of สามารถใช้ lots of แทนได้เมื่อประกอบกับคำนามนับได้พหูพจน์ในการพูดแบบไม่เป็นทางการ (informal speech) 
B Grammar: Parts of a reading passage. Write the correct numbers to label the parts of the reading passage. In each sentence below, circle the best answer.  
- ให้นักเรียนอ่านคำสั่งกิจกรรม Language Practice ข้อ B ส่วนที่ 1 ให้เข้าใจ แล้วลงมือปฏิบัติกิจกรรม โดยเขียนตัวเลขระบุส่วนต่างๆ ของบทอ่าน (parts of the reading passage) ให้ถูกต้อง
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเปรียบเทียบคำตอบ และสรุปเป็นคำตอบของคู่ตน  
T: Find a partner and compare your answers. Make a decision on a final answer for your pair.
- ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่เฉลยคำตอบ นักเรียนทั้งชั้นช่วยกันแก้ไขถ้าคำตอบไม่ถูกต้อง (ดูเฉลยคำตอบท้ายเล่มคู่มือครู) 
- จากนั้นครูแจ้งนักเรียนว่า กิจกรรม Language Practice ข้อ B ส่วนที่ 2 ในหนังสือเรียน หน้า 15 ที่นักเรียนจะต้องลงมือปฏิบัติต่อนั้นเป็นการทดสอบย่อย ให้นักเรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมภายในเวลา 3 นาที (ไม่นับเวลาที่ลอกประโยคลงในสมุด) ดังนี้
1. ให้นักเรียนลอกประโยคข้อ 1-5 และตัวเลือกคำตอบกิจกรรม Language Practice ข้อ B    ส่วนที่ 2 ลงในสมุดของตนเอง
2. ให้นักเรียนดูคำตอบของกิจกรรม Language Practice ข้อ B ส่วนที่ 1 ที่นักเรียนทำเสร็จแล้ว  
3. ให้นักเรียนอ่านประโยคที่นักเรียนลอกไว้ในสมุด แล้วเลือกวงกลมคำตอบที่ถูกต้อง
- เมื่อนักเรียนทำภาระงานเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนทั้งชั้นช่วยกันเฉลยคำตอบ (ดูเฉลยคำตอบ  ท้ายเล่มคู่มือครู) ให้นักเรียนตรวจงานของตนเองและบันทึกจำนวนข้อที่ทำได้ถูกต้องลงในสมุด 
Writing
- ให้นักเรียนทุกคนเขียนประโยคสรุปเนื้อหาของบทอ่านเรื่อง Mount Merapi Erupts คนละ 1 ประโยคลงในสมุดของตนเอง โดยครูเขียนขึ้นต้นประโยคและจบประโยค ดังนี้ The passage describes …………..…………………………………….. when it erupted in 2010. ครูแนะนำให้นักเรียนดูคำตอบในกิจกรรม Reading Comprehension ข้อ B ในหนังสือเรียน หน้า 14 เพื่อนำข้อมูลมาเขียนสรุป (ถ้าไม่มีเวลาเพียงพอในคาบเรียนนี้ ให้นักเรียนทำกิจกรรมนี้นอกเวลาเรียน)
คำตอบ
The passage describes the experience of some Indonesian people who live near Mount Merapi when it erupted in 2010.
- ครูประเมินการเขียนสรุปเนื้อหาของบทอ่านของนักเรียน โดยเน้นเนื้อหาของประโยคโดยรวม (holistic evaluation) ไม่เน้นไวยากรณ์
9.4 ขั้นสรุป (Wrap Up)
- ให้นักเรียนสรุปกลวิธีการอ่านอย่างเร็วเพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ (scanning) โดยครูถามคำถาม CCQs (Concept Checking Questions) ที่เคยใช้ถามนักเรียนในขั้นก่อนการอ่าน (Pre-reading) ให้นักเรียนช่วยกันตอบ ครูช่วยเสริมและสุรป ดังนี้ scanning – reading quickly in search of specific information, such as names and dates      
- ครูถามคำถาม CCQs (Concept Checking Questions) ทบทวน ดังนี้ 
- Do you read the passage thoroughly? (No.)
- Do you read quickly or slowly? (Quickly)  
- Do you know what you search for? (Yes.) 
- ให้นักเรียนสรุปแนวการตอบคำถาม gist, detail, reference และ purpose ใน Reading Comprehension ข้อ A ในหนังสือเรียน หน้า 14 จากการอ่านและทำความเข้าใจคำถาม-คำตอบ    จากความทรงจำจากการเฉลยคำตอบ และจากวิธีการตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องออก ครูช่วยเสริม และสุรป  
- ให้นักเรียนสรุปการใช้ส่วนต่างๆ ของบทอ่าน (parts of a reading passage) ได้แก่ title, subheading, paragraph, picture, caption, และ sentence ที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจบทอ่านก่อน ลงมืออ่าน โดยครูบอกให้นักเรียนอ่านและทำความเข้าใจส่วนต่างๆ ของบทอ่านในกิจกรรม Language Practice ข้อ B ส่วนที่ 2 ในหนังสือเรียน หน้า 15 อีกครั้ง แล้วช่วยกันสรุป ครูช่วยเสริมและสุรปเพื่อความชัดเจน
- ให้นักเรียนบันทึกสรุปทั้งหมดลงในสมุด พร้อมทั้งจดคำศัพท์ใหม่ที่เรียนรู้จากบทนี้ลงในสมุดจดคำศัพท์ของตนเอง เพื่อทบทวนความทรงจำ โดยนักเรียนสามารถทำนอกเวลาเรียน แล้วนำส่งครูเพื่อตรวจความถูกต้อง

See you next class*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น